-เทคโนโลยีสารสนเทศในชีวิตประจำวัน
ความเป็นมาและพัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศ
• เทคโนโลยีโทรคมนาคม
• เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
-เทคโนโลยีโทรคมนาคม
•การประดิษฐ์โทรเลข – Samual
Morse (ปีพ.ศ.2380)ข่าวสารถูกแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่ง
ไปตามสายเป็นระยะไกลๆ
•การวางสายเคเบิ้ลใต้มหาสมุทรแอแลนติก
(ปีพ.ศ.2401)
การสื่อสารข้ามทวีประหว่างทวีปอเมริกากับทวีปยุโรปเป็นครั้งแรก
•การประดิษฐ์โทรศัพท์ –Alexander Graham Bell (ปีพ.ศ.2419)การตั้งชุมสายโทรศัพท์ครั้งแรก
และการขยายตัวของชุมสายฯ
-การสื่อสารไร้สาย
•การค้นพบคลื่นวิทยุ โดยHeinrich Hertz (ปีพ.ศ.2430)
•การประดิษฐ์เครื่องรับส่งวิทยุเครื่องแรกโดย
Guglielmo Marconi (ปีพ.ศ.2437)
•การประดิษฐ์หลอดสุญญากาศ จุดเริ่มต้นของการขยายการแปรรูปสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์
โดย John Flemming และ
Lee De Forest
•การประดิษฐ์ทรานซิสเตอร์ที่มาของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบสารกึ่งตัวนำไอซีและ
ซีพียูในคอมพิวเตอร์
โดย Schockley, Bardeen และ Brattain (ปีพ.ศ.2490)
•การประดิษฐ์หลอดภาพโทรทัศน์ ที่เป็นที่มาของจอภาพคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน
โดย Vladimir Zworykin (ปี พ.ศ.2497)
•การประดิษฐ์วงจรรวมหรือ ไอซี โดย Jack Killby และ Robert Noyce (ปีพ.ศ.2500)
– เป็นเทคโนโลยีย่อส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันมีสมรรถนะสูง
และมีขนาดเล็ก
•การสร้างดาวเทียมสื่อสาร เทลสตาร์1 – ดาวเทียมสื่อสารดวงแรกของโลก โดยบริษัท
AT&T (ปีพ.ศ.2504)
-เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
ความเป็นมาของคอมพิวเตอร์
|
• 1936 Konrad Zuse - Z1 Computer
• First
freely programmable computer
•1942 John Atanasoff
& Clifford Berry: ABC Computer
•1944 Harvard Mark I Computerfirst programmable digital
•1951 UNIVAC ComputerFirst commercial computer
•1955 ERMA and MICR The first bank industry computer
•1971
Intel 4004 ComputeMicroprocessorr
•1981 The IBM PC - Home Computerand MS-DOS Computer Operating System
•1983 Apple Lisa Computer The first home computer with a GUI, graphical user interface.
•1984 Apple Macintosh Computer
•1985 Microsoft Windows
-พัฒนาการการสร้างคอมพิวเตอร์สมัยใหม่
ยุคที่1 พ.ศ. 2489-2501 (1946-1958)
-การประดิษฐ์เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มิใช่เครื่องคำนวณ โดย Mauchly and Eckert – ENIAC (Electronic Numerical Integrator and Calculator)
-UNIVAC (Universal Automatic Computer) – คอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลกที่ใช้งานเชิงธุรกิจ ใช้สำรวจสำมะโนประชากรประจำปี
-ยุคแรกของ
คอมพิวเตอร์สิ้นสุดเมื่อมีการประดิษฐ์ทรานซิสเตอร์มาใช้แทนหลอดสุญญากาศ
ยุคที่
2 พ.ศ. 2502-2506 (1959-1963)
•ใช้ทรานซิสเตอร์กับคอมพิวเตอร์
ทำให้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กลง
•คอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพในการทำงานรวดเร็วขึ้น
แม่นยำมากขึ้น
•มีการคิดภาษาเพื่อใช้กับคอมพิวเตอร์
– ภาษา Fortran
ยุคที่ 3 พ.ศ. 2507 -2512 (1964-1969)
•เกิดขึ้นหลังการนำทรานซิสเตอร์มาใช้ 5 ปี
•การประดิษฐ์วงจรรวม (Integrated- Circuit: IC)
ทำให้ส่วนประกอบและวงจรต่างๆสามารถวางลงบนแผ่นชิป (chip)เล็กๆ แผ่นเดียวได้
•ใช้แผ่นชิปแทนทรานซิสเตอร์ -ประหยัดเนื้อที่ได้มาก
•การใช้งานระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management Systems: DBMS)
•การพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้สามารถทำงานร่วมกันได้หลายๆงานในเวลาเดียวกัน
•ระบบที่ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับเครื่องได้หลายๆคนพร้อมๆกัน(Time Sharing)
ยุคที่ 4 พ.ศ. 2513 -2532 (1970-1989)
•นำสารกึ่งตัวนำมาสร้างเป็นวงจรรวมความจุสูงมาก(Very Large Scale Integrated: VLSI)-
ย่อส่วนไอซีธรรมดาหลายๆวงจรเข้ามาเป็นวงจรเดียวกัน
•การประดิษฐ์ไมโครโพรเซสเซอร์
(Microprocessor)- เครื่องมีขนาดเล็กลง ราคาถูกลง
ความสามารถในการทำงานสูงและรวดเร็วมาก
•เกิดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer: PC)
ยุคที่ 5 พ.ศ. 2533 –ปัจจุบัน (1990-Present)
•เน้นการพัฒนาความสาสารถในการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ ความสะดวกสบายในการ
ใช้งาน
•การพัฒนาคอมพิวเตอร์แบบพกพาขนาดเล็ก (Portable Computer)
•พัฒนาอุปกรณ์VLSI ให้ใช้งานง่าย และมีความสามารถสูงขึ้น
•โครงการวิจัยและพัฒนาด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) – เป็นหัวใจ
ในการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ของยุคนี้ – ระบบคอมพิวเตอร์สามารถวิเคราะห์ปัญหาอย่าง
เป็นเหตุเป็นผลตามลักษณะของโปรแกรม
-ลักษณะของระบบปัญญาประดิษฐ์
1. ระบบหุ่นยนตร์หรือแขนกล (Robotics or Robot arm System)
- หุ่นจำลองร่างกายมนุษย์ทำงานด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ – แขนกลในโรงงานอุตสาหกรรม/
หุ่นยนตร์กู้ระเบิด
2. ระบบประมวลภาษาพูด (Natural Language Processing System) -- ระบบคอมพิวเตอร์สามารถสังเคราะห์เสียงที่มีอยู่ในธรรมชาติ (Synthesize) เพื่อสื่อความหมายกับมนุษย์ /นาฬิกาปลุกพูดได้ (Talking Clock)/ เครื่องคิดเลขพูดได้ (Talking Calcuator)
3. ระบบการรู้จำเสียงพูด (Speech Regcognition System)- พัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ให้เข้าใจภาษามนุษย์- จดจำคำพูดของมนุษย์ได้อย่างต่อเนื่อง –งานระบบรักษาความปลอดภัย/ งานพิมพ์เอกสารสำหรับผู้พิการ
4. ระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System) -พัฒนาให้ระบบคอมพิวเตอร์มีความรู้ รู้จักใช้เหตุผลในการวิเคราะห์ปัญหา อาศัยฐานข้อมูล (Database) เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้จากฐานความรู้นั้น- คอมพิวเตอร์วิเคราะห์โรค/ คอมพิวเตอร์ทำนายโชคชะตา
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น